“พอประมาณ”
ความพอดีที่ไม่น้อยเกินไป และไม่มากเกินไป รู้จักใช้เท่าที่มี และใช้สิ่งที่มีให้เกิดประโยชน์
.
“รู้จักความพอประมาณ…เมื่ออยู่บ้าน”
.
ตั้งแต่ใช้เวลาอยู่บ้าน เชื่อนะคะว่า มีหลายคนออกจากบ้านน้อยมาก บางครั้งสัปดาห์สองสัปดาห์แทบไม่ได้ออก ซึ่งสิ่งที่สังเกตเห็นคือ ไม่ได้จับเงินเลย ไม่มีสิ่งที่ล่อใจ ไม่มีสิ่งที่ต้องการ
.
เราเริ่มไปให้ความสนใจกับสิ่งที่อยู่ในบ้าน… เริ่มสำรวจบ้าน อะไรที่ควรเก็บไว้ เก็บไว้เพื่ออะไร ควรทิ้ง ทิ้งเพราะอะไร ทำให้เห็นว่า มีสิ่งไม่จำเป็นเยอะมาก จนกลายเป็นขยะ …เริ่มสังเกตบริเวณส่วนไหนของบ้านที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ จะทำอย่างไรให้บริเวณนั้นสามารถสร้างแหล่งทรัพยากรของเราเองได้ เช่น ผัก ผลไม้ ซึ่งจะทำให้เราไม่ต้องออกไปซื้อของข้างนอกบ่อย ๆ และมีความเสี่ยงกับโรคระบาด
.
ศาสตร์ของพระราชา…ทำให้จากคนที่ไม่เคยได้ศึกษาเรื่องการเกษตร มาสนใจศึกษา …เมื่อเริ่มศึกษา และพอได้เริ่มลงมือ ยิ่งสนุก ทำให้เห็นเป้าหมายของการลงมือทำ คือ การสร้างทรัพยากรให้กับตัวเอง ซึ่งเป็นการเริ่มต้นจากตัวเองก่อน พอตัวเองเริ่มอยู่ตัว จึงแบ่งปันผู้อื่น แต่ก็มีเสียงสะท้อนจากคนที่พบเจอ จะคิดว่าเราทำเพื่อขาย สำหรับตัวเราเองจะมองว่า ถ้าคิดเรื่องเงิน จะทำอะไรแล้วไม่มีความสุข แต่สิ่งที่ทำให้มีความสุขคือ การมองเห็นผลที่เกิดขึ้นจากการลงมือทำ และการปรับเปลี่ยนเทคนิควิธีการเพื่อเข้าใจลักษณะนิสัยของพืชผักแต่ละชนิด เช่นเดียวกับความเข้าใจเรื่องความแตกต่างระหว่างบุคคล
.
จากนั้นเริ่มแบ่งเวลา… หลายคนที่เป็นนักศึกษาหรือทำงานเป็นประจำ อยู่ ๆ ก็มาใช้เวลาอยู่บ้านมากขึ้น และด้วยกิจวัตรประจำวันเป็นอยู่อย่างนี้มานานจนเป็นสิ่งที่คุ้นชิน ถ้าให้อยู่เฉย ๆ ที่บ้าน ก็คงรู้สึกไม่มีความสุขนัก แต่สิ่งที่เห็นอย่างชัดเจนคือเวลาที่เพิ่มขึ้น เพราะไม่ใช้เวลากับการเดินทาง แค่เดินไปห้องทำงานที่บ้าน ถึงเวลาตอนกลางวันก็เดินไปห้องครัว จากที่เคยขับรถวนไปวนมาเพื่อรับประทานอาหารกลางวันทำให้เสียเวลาไปกับการเดินทางเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งการแบ่งเวลาหลายคนอาจทำได้ในวิธีที่แตกต่างไป ขึ้นอยู่กับความสุขและเป้าหมายในการใช้เวลาของแต่ละคน เช่น ด้านการศึกษา ด้านการทำงาน ด้านส่วนตัว ด้านครอบครัว เป็นต้น ถ้าเราสามารถแบ่งเวลา และลงมือปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ เมื่อกลับมาอยู่ในสถานการณ์ปกติ เราก็พร้อมที่จะตื่นมาพร้อมที่จะวิ่งอย่างมั่นคง และเมื่อกลับไปสถานการณ์เดิมก็พร้อมที่จะปรับตัวและรู้เท่าทัน
.
เริ่มมีความคิดที่ว่า คนเราอยู่ได้เพราะอะไร คนส่วนใหญ่จะนึกถึงเงิน เป้าหมายเพื่อเงิน เนื่องจากเงินเป็นตัวแทนของการได้มาปัจจัยภายนอก เช่น รถ กระเป๋า รองเท้า นาฬิกา สร้อย แหวน เป็นต้น แต่พออยู่บ้านจริง ๆ เราแทบไม่ได้ใช้รถ ไม่จำเป็นต้องถือกระเป๋า รองเท้าเป็นรองเท้าธรรมดาที่ใส่แล้วสบายก็เพียงพอแล้ว”
.
เมื่อไม่ได้ไปเจอสิ่งที่ล่อใจ หันมาสนใจกับสิ่งที่ตนเองมีอยู่ และรู้จักแบ่งเวลาตามความเหมาะสมของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และคำนึงถึงว่าคนเราดำรงชีวิตได้ด้วยอะไรบ้าง ก็จะใช้เวลาอยู่บ้านอย่างเข้าใจตัวเอง และเข้าใจความพอประมาณอย่างแท้จริง
โดย อาจารย์ ดร.ศิริภิญญา ตระกูลรัมย์
กลุ่มวิชาจิตวิทยาและการแนะแนว
คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์